OMAKASE
WORLD BLOG

บอกเล่าเรื่องราววัฒนธรรมพิถีพิถัน สู้เส้นทางซูชิ (Sushi) สไตล์เอโดะดั้งเดิม

           ซูชิ (Sushi) ถือเป็นหนึ่งในบรรดาอาหารที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของญี่ปุ่น มีขายตั้งแต่ร้านแผงลอยเล็ก ๆ ไปจนถึงระดับภัตราคารในโรงแรมหรู หลายคนคงรู้ว่าซูชิมีต้นกำเนิดจากประเทศญี่ปุ่นมาหลายร้อยปี ซูชิ ประกอบด้วยข้าวที่ปั้นเป็นก้อนและท็อปปิ้งวัตถุดิบต่าง ๆ วางด้านบนที่เราเห็นจนชินตา จะมีใครรู้หรือไม่ว่าเส้นทางของซูชิที่กว่าจะมาเป็นอาหารของคนญี่ปุ่นทีความเป็นมาอย่างไร วันนี้ Sushi Koge จะพาทุกคนไปตามรอยความอร่อยกันครับ

 

 

จุดเริ่มต้นของซูชิ ซูชิมาจากไหน? 

 

เดิมที ซูชิ  (Sushi) ไม่ได้เป็นอาหารดั้งเดิมของญี่ปุ่น แต่ญี่ปุ่นได้รับเอาวัฒนธรรมการถนอมอาหารมาจากประเทศในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ราว ค.ศ. 8 โดยประเทศจีนเป็นผู้นำเข้ามาเผยแพร่ ชูซิในอดีตจึงเริ่มต้นจากเป็นอาหารที่ใช้วิธีถนอมปลาไว้กินเป็นเวลานาน โดยการหมักปลากับเกลือและหมักข้าวให้เปรี้ยวเพื่อยืดอายุของวัตถุดิบ เราเรียกซูชิประเภทนี้ว่า “นาเรซูชิ” ต่อมาในปี ค.ศ. 17 มีการคิดค้นให้หมักข้าวด้วยน้ำส้มสายชูเพื่อทำให้ข้าวเปรี้ยวเร็วขึ้นแถมยังมีรสชาติที่อร่อยขึ้นด้วย 

            จนกระทั่งราว ค.ศ. 19 รูปแบบการทำซูชิได้เปลี่ยนแปลงไป เพราะมีการนำเอาปลาดิบมาเป็นวัตถุดิบทานคู่กินข้าวปั้นผสมน้ำส้มสายชูจนมีหน้าตาคล้ายกับซูชิในปัจจุบัน เราเรียกซูชิประเภทนี้ว่า “นิกิริซูชิ” และมีการคิดค้นดัดแปลงซูชิให้มีความหลากหลายมากขึ้น ทำให้ซูชิใช้วัตถุดิบได้ทั้งปลาดิบและปรุงสุก สัตว์ทะเลอื่น ๆ ผักสด และผักดองจนมีซูชิชนิดต่าง ๆ เต็มไปหมด โดยมักจะเสิร์ฟคู่กับซีอิ๊ว วาซาบิ และขิงดอง เพื่อชูรสชาติขิงซูชิให้มีความอร่อยเพิ่มมากขึ้น

 

 

ทำความรู้จักซูชิแต่ละประเภท

 

  1. นิกิริ ซูชิ (Nigiri Sushi)

นิกิริเป็นซูชิประเภทหนึ่งที่ประกอบด้วย ข้าวที่ปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชูแล้วนำมาปั้นให้มีขนาดพอดีคำ วางทอปปิ้งด้วยปลาดิบชนิดต่าง ๆ หั่นเป็นชิ้น หรือจะใช้วัตถุดิบเป็นไข่หวาน หมึก กุ้ง หรือสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ ได้ตามใจชอบ จุดเด่นของนิกิริซูชิเลยคือ ข้าวต้องแน่นไม่เละ มีรสเปรี้ยวนิด ๆ วัตถุดิบต้องสด สามารถกินได้ในหนึ่งคำ

 

  1. ชิราชิ ซูชิ (Chirashi Sushi)

ชิราชิ ถ้าแปลจากภาษาญี่ปุ่นจะหมายถึง 'กระจัดกระจาย' ที่ได้ชื่อนี้เพราะว่า ซูชิลักษณะนี้จะใช้การนำวัตถุดิบต่าง ๆ เช่น ปลาดิบ ผัก ไข่ม้วน หรืออาหารทะเลสด ๆ อีกสารพัด มาวางโปะผสมทุกอย่างเข้าด้วยบนชามข้าวแบบไม่ต้องสนใจว่ามันจะสวยหรือเป็นระเบียบมากนัก แล้วเสิร์ฟคู่กับวาซาบิและซอสโชยุนั่นเอง

 

 

  1. มากิ ซูชิ (Maki Sushi)

มากิ เป็นซูชิโรลประเภทหนึ่งที่ทำจากข้าวปรุงรสด้วยน้ำส้มสายชู ห่อด้วยโนริสาหร่ายเป็นชั้นบาง ๆ ก่อนมักจะตัดเป็นชิ้น ๆ ขนาดพอดี ส่วนไส้จะอยู่ภายในใส่วัตถุดิบเพียงไม่กี่ชนิดมีทั้งปลาดิบ แตงกวา หรือทอปปิ้งอื่น ๆ ตามใจชอบ ด้านบนอาจโรยงาเพื่อเพิ่มความหอมอร่อยให้กับซูชิมากิอีกด้วย

 

  1. อุรามากิ (Uramaki)

อุรามากินั้นคล้ายกับมากิซูชิตรงที่จะทำเป็นซูชิโรลแล้วตัดเป็นคำ ๆ แต่ลักษณะการห่อไส้ต่างกัน เพราะอุรามากิจะใช้สาหร่ายพันรอบไส้โดยที่ข้าวจะห่อทับสาหร่ายอีกชั้นหนึ่งแทนที่จะใช้สาหร่ายห่อเหมือนกับซูชิมากิ ส่วนด้านนอกของข้าวอาจมีการคลุกเคล้าด้วยงาคั่ว หรือจะเป็นวันถุดิบอื่น ๆ ก็ได้ครับ

 

  1. เทมากิ ซูชิ (Temaki Sushi)

เทมากิ เป็นซูชิโรลอีกประเภทหนึ่ง หน้าตาจะคล้ายกับมากิโรแต่จะต่างกันตรงที่เทมากิจะนำเอาสาหร่ายมาทำเป็นรูปทรงกรวยคล้ายโคนไอศกรีมที่อัดแน่นไปด้วยข้าว ผัก และเนื้อปลา หรือเนื้อวัตว์ชนิดอื่น ๆ เทมากิมีขนาดใหญ่เกินกว่าจะทานด้วยตะเกียบ จึงนิยมทานด้วยมือ 

 

  1. กุงคังมากิ ซูชิ (Gunkanmaki Sushi)

กุงคังมากิ เป็นซูชิข้าวห่อสาหร่าย ด้ายบนข้าวจะทอปปิ้งด้วยเนื้อสัตว์สับ ผัก ไข่ปลาแซลมอน หรืออูนิ ที่มีลักษณะนิ่ม ๆ ไม่อยู่ทรง จึงต้องใช้สาหร่ายในการประคองวัตถุดิบไว้ ด้วยหน้าตาที่คนญี่ปุ่นจินตนาการว่าคล้ายกับเรือรบ เราจึงเรียกซูชิประเภทนี้ว่า กุงคัง ที่แปลว่า ‘เรือรบ’ นั่นเองครับ

 

 

            สัมผัสความอร่อยของโอมากาเสะพรีเมียมที่ไม่เหมือนใครในแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิมแท้ ๆ   บรรยากาศสไตล์เอโดะ พร้อมประสบการณ์สุด Exclusive ได้แล้ววันนี้ ที่ Sushi Koge ตั้งอยู่ชั้น B วานิชวิลเลจ อารีย์ (Vanit Village Aree) เปิดให้บริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดทำการทุกวันจันทร์) มีรอบให้บริการดังนี้ เวลา 12.00/13.30/18.00/19.30 น. ใช้เวลาในการเสิร์ฟรอบละ 1.30 ชม. (จำกัด 12 ที่นั่งต่อรอบ) สำหรับ Standard Course (18 Course) ราคา 2,900++ บาท (ราคายังไม่รวม Vat7% และ Service Charge10%) รวมถึงค่าเครื่องดื่ม สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://lin.ee/CdamYNj หรือ โทร. 099-003-9039