สาเก เครื่องดื่มยอดนิยมที่เข้าได้กับอาหารญี่ปุ่นเกือบทุกชนิด หลาย ๆ คนอาจไม่รู้ว่าจริง ๆ แล้วถ้วยสาเกของญี่ปุ่นมีหลากหลายประเภทตั้งแต่ภาชนะที่ใส่สาเก ภาชนะที่ใช้รินสาเก และอุปกรณ์ที่ใช้อุ่นสาเกที่มีความแตกต่างกันทั้งในแง่วัสดุและรูปทรง เพราะในโลกของสาเกภาชนะใส่สาเกมีความสำคัญมาก และคนญี่ปุ่นยังพัฒนาภาชนะสำหรับดื่มและรินสาเกอยู่เสมอ วันนี้ sushi koge จะพาทุกคนไปเปิดประสบการณ์เสพงานศิลป์กับถ้วยสาเกในแบบต่าง ๆ กันครับ
- โอโจโกะ (Ochoko)
ถ้วยสาเกทรงกลมขนาดเล็กที่ชวนให้นึกถึงแก้วชอตทีมีความจุเพียง 45 มล.เท่านั้น โอโจโกะมีหลายประเภทตั้งแต่แบบธรรมดาไปจนถึงแบบที่มีศิลปะขั้นสูง โอโจโกะมีหน้าตาคล้ายกับ "กุยโนมิ (Guinomi)" แต่มีความต่างกันที่ขนาดของกุยโนมินั้นลึกกว่า มีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่กว่า จุสาเกได้มากกว่า และมักจะรองรับสาเกจากขวดสาเกโดยตรง ส่วนโอโจโกะจะรองรับสาเกจากขวดโทคุริ ซึ่งเป็นขวดสำหรับใส่สาเกอีกที
- โทคุริ (Tokkuri)
เป็นภาชนะคล้ายขวดเหล้าขนาดใหญ่ มักใช้เป็นที่บรรจุสาเกก่อนจะเสิร์ฟในถ้วยโอโจโกะ โทคุริมีความจุตั้งแต่ขนาด 180 มล. ไปจนถึง 1.8 ลิตร เหมาะสำหรับใช้ใส่สาเกทั้งแบบอุ่นและแช่เย็น ในอดีตโทคุริถูกนำมาใช้ใส่ของเหลว เช่น ซีอิ๊วหรือน้ำมัน และทำจากขวดแก้ว แต่ในปัจจุบันโทคุริทำจากวัสดุหลากหลายประเภท เช่น เซรามิก โลหะ หรือแก้ว และถูกมาใช้ใส่วาเกเป็นหลัก โดยที่เซรามิกเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะไม่ทำให้รสชาติสาเกเสียไป
- มาสึ (Masu)
มาสึ เป็นภาชนะไม้ทรงสี่เหลี่ยมซึ่งมักมีขนาดเท่าฝ่ามือ ออกแบบมาเพื่อดึงรสชาติของสาเก มีความจุประมาณ 180 มล. สมัยก่อนมาสึถูกใช้เป็นอุปกรณ์คำนวณความจุของข้าว และซีอิ๋ว ก่อนที่จะถูกนำมาใช้เป็นภาชนะสำหรับใส่สาเก ความพิเศษของมาสึเมื้อสัมผัสกับสาเกจะมีกลิ่นหอมของไม้ธรรมชาติขึ้นมา และทำให้รสชาติสาเกนุ่มขึ้นด้วย มาสึมักจะถูกเสิร์ฟพร้อมโอโจโกะถ้วยขนาดเล็กด้านใน วิธีดื่มด่ำสาเกในมาสึ คือ เราจะรินสาเกในถ้วยจนล้นออกมาในมาสึ จากนั้นเราต้องดื่มสาเกในโอโจโกะก่อน แล้วค่อยกินสาเกที่เหลือจากมาสึ มาสึมักถูกนำไปใช้ในงานปาร์ตี้และงานพิธีต่าง ๆ ของคนญี่ปุ่น
- คาตาคุจิ (Katakuchi)
คาตาคุจิ เป็นภาชนะใส่สาเกอีกประเภทหนึ่ง มีลักษณะหนา ค่อนข้างแข็งแรง ไม่มีคอขวดเหมือนโทคุริ ปากเปิด และมีพวยกาเล็กอยู่ด้านหนึ่ง เหมาะสำหรับใส่สาเกข้าวบริสุทธิ์ เพื่อให้นักดื่มได้เพลิดเพลินกับรสชาติของสาเกที่ค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงไปในแต่ละระดับของอุณหภูมิ แม้ว่าคาตาคุจิจะมีดีไซน์ที่น่ารักและใช้งานง่าย แต่กลับไม่ได้รับความนิยมเท่าโทคุริเท่าไหร่นัก
- ฮิราไฮ (Hirahai)
ฮิราไฮ เป็นถ้วยสาเกรูปแบบที่เก่าแก่ที่สุด มีลักษณะเป็นถ้วยที่มีขอบที่กว้าง ก้นตื้น ความจุไม่มากนัก ทำให้นักดื่มได้สัมผัสกับรสชาติของสาเกเน้น ๆ ไปทั่วปาก เหมาะกับการดื่มสาเกแบบร้อนที่สุด ปัจจุบัน ฮิราไฮ มักถูกนำไปใช้สำหรับทดสอบรสชาติของสาเกมากกว่า และมักใช้ในงานสำคัญอย่างงานแต่งงานแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นด้วย
- แก้วไวน์ (Wine Glasses)
แก้วไวน์ส่วนใหญ่แล้วถูกออกแบบมาเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมให้กับเครื่องดื่ม ทำให้นักดื่มสามารถเพลิดเพลินกับรสชาติและกลิ่นของสาเกได้มากที่สุด โดยการหมุนสาเกไปรอบ ๆ แก้ว ให้กลิ่นหอมของสาเกกระจายออกมาก่อนดื่ม แก้วไวน์จึงเหมาะกับฮิยาซาเกะเย็นที่สุด
มาสัมผัสกับศิลปะการดื่มสาเกส่งตรงจากญี่ปุ่นแท้ ๆ ในรูปแบบต่าง ๆ พร้อมกับรับประทานอาหารญี่ปุ่นแบบพรีเมี่ยม โดยเชฟผู้มุ่งมั่นในจิตวิญญาณของอาหารญี่ปุ่นได้ที่ Sushi Koge ร้านโอมากาเสะพรีเมียมที่ไม่เหมือนใครในแบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิมแท้ ๆ บรรยากาศสไตล์เอโดะ พร้อมประสบการณ์สุด Exclusive ในราคาเริ่ทต้นที่ราคา 2,900++ บาท (ราคายังไม่รวม Vat7% และ Service Charge10%) รวมถึงค่าเครื่องดื่ม สำรองที่นั่งได้ที่ https://lin.ee/CdamYNj หรือ โทร. 099-003-9039