OMAKASE
WORLD BLOG

7 ปลาญี่ปุ่นหายากที่เสิร์ฟ ในคอร์สโอมากาเสะของ Sushi Koge

              โอมากาเสะ มีจุดเด่นหลักในการรังสรรค์เมนูรสเลิศของเชฟผู้เชี่ยวชาญในอาหารญี่ปุ่น ที่ต้องการชูวัตถุดิบระดับพรีเมียม มีคุณค่า หาทานยาก หรือมีเฉพาะตามฤดูกาลนั้นๆ เพียงช่วงเวลาสั้นๆ เท่านั้น ตัวอย่างเช่น ปลาสายพันธุ์ต่างๆ ในน่านน้ำทะเลญี่ปุ่น ที่อุดมไปด้วยปลาชั้นดีที่มีคุณค่าทางอาหารสูง คอร์สโอมากาเสะขาดไม่ได้ที่จะนำเสนอปลาหายากที่ส่วนใหญ่นำมาทำเป็นซาชิมิและซูชิในมื้อสุดหรูนี้ Sushi Koge จึงได้นำเข้าปลาหายากจากทะเลญี่ปุ่น เพื่อให้ทุกคนได้ลิ้มชิมรสความอร่อยละมุนของเนื้อปลาในแต่ละคำที่น่าจดจำ โดยในคอร์สโอมากาเสะของ Sushi Koge จะมี “7 ปลาญี่ปุ่นหายาก” ที่ทางเราอยากแนะนำให้ทุกคนได้รู้จัก

 

 

1. “ปลาซาวาระ” (Sawara)

จากเมืองคานากาวะ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นปลาแมคเคอเรล (Spanish Mackerel) ที่ดีที่สุดของญี่ปุ่น มักว่ายอย่างสันโดษ ไม่ชอบรวมกลุ่ม มีเนื้อนุ่ม เนื้อค่อนข้างจะชุ่มฉ่ำในการปรุงอาหาร พบได้ตามฤดูกาลตั้งแต่ปลายฤดูใบไม้ร่วงถึงปลายฤดูใบไม้ผลิ 

 

2. “ปลาคามาสุ” (Kamasu)

มาจากจังหวัดมิเอะ (Mie) เมืองชายทะเลริมมหาสมุทรแปซิฟิกที่มีความอุดมสมบูรณ์ ด้วยกระแสน้ำทำให้ปลาได้ว่ายอยู่เสมอ เนื้อปลาจึงอร่อย เป็นปลานักล่าที่ว่ายเร็วมาก สามารถว่ายน้ำได้สูงกว่า 60 ไมล์/ชั่วโมง และยาวได้ถึง 5 ฟุต ปลาคามาสุมักพบหลักๆ อยู่ 2 ชนิด “ยามาโตะ คามาสุ” (Yamato kamasu) และ “อากะ คามาสุ” (Aka kamasu) ที่ใช้เป็นหน้าซูชิ ปลาคามาสุที่พบในฤดูใบไม้ร่วงนั้นจะอร่อยเป็นพิเศษ อุดมด้วยไขมันดี และมีลักษณะพิเศษคือรสอูมามิแบบเบาบาง สามารถเสิร์ฟแบบลอกหนังได้

 

3. ปลา “มาซาบะ” (Ma Saba)

จากเมืองนางาซากิ บนเกาะคิวชู มีไขมันที่อิ่มตัวพอดี ไม่น้อยและไม่มากจนเกินไป ปลาซาบะจากเมืองนี้ถือว่าดีอันดับต้นของญี่ปุ่น นำมาดองด้วยน้ำส้มสายชูสูตรพิเศษของร้าน Sushi Koge แล้วนำไปรมควัน เสิร์ฟสไตล์ Isobe Maki ซึ่งจะเป็นวิธีการห่อสาหร่อยแบบไม่มีข้าว “มาซาบะ” หรือปลาซาบะ (ปลาแมคเคอเรล) มีหลายสายพันธุ์และหลายชื่อ ในญี่ปุ่นจะเรียกว่า “ซาบะ” “มาซาบะ” หรือ “เซกิซาบะ” เป็นหลัก รสชาติของปลาซาบะนั้นซับซ้อน มีทั้งความเข้มข้น มีความคาวเล็กน้อย ความเค็ม ความเปรี้ยว จากรสชาติตามธรรมชาติของตัวปลาเอง

 

 

4. ปลาแซลมอนขาว (White Fujisan Salmon)

โดยทั่วไปเนื้อปลาแซลมอนเป็นสีส้ม แต่แซลมอนชนิดนี้เป็นแซลมอนเนื้อสีขาว อายุ 1 ปี เลี้ยงในแหล่งน้ำแร่ธรรมชาติของภูเขาไฟฟูจิ จากจังหวัดชิซูโอกะ ที่มีอุณหภูมิ 11 องศาเซลเซียสตลอดทั้งปี จึงให้รสชาติอ่อนโยนและเบา เนื้อหนึบกว่าแซลมอนปกติ แน่นไปด้วยรสชาติที่หรูหรา และมีไขมันส่วนเกินเล็กน้อย

 

5. ปลาอาจิ (Aji) หรือปลาทูญี่ปุ่น

จากจังหวัดนางาซากิ เป็นปลาหนังเงินชนิดหนึ่ง ยาวประมาณ 20-50 ซม. ที่มีรสชาติเข้มข้นและหอมมันอย่างลงตัว นิยมทานแบบแห้งหรือโรยหน้าซูชิ ปลาอาจิพบได้ทั่วไปในทะเลทั่วญี่ปุ่น นิยมนำมาเป็นหน้าซูชิในฤดูร้อน เราจะสามารถลิ้มรสไขมันที่ดีของมันได้ 

 

 

6.อากามิ (Akami)

ปลาทูน่าเนื้อแดง เสิร์ฟ Honmaguro หรือทูน่าครีบน้ำเงิน ราชาแห่งมากุโระ ส่วนมากจะมาจาก 2 เมืองหลักๆ ที่เป็นที่นิยมรับประทาน คือ นางาซากิ และ มิเอะ อากามิเป็นส่วนที่แทบไม่มีไขมันเลย แคลอรีต่ำ โปรตีนสูง และดีต่อสุขภาพ เมื่อเทียบกับโทโระแล้ว อากามิพบได้ในปริมาณที่มากกว่าในตัวปลาทูน่า 

 

7. ชูโทโร่ (Chutoro)

คือส่วนท้องทูน่าครีบน้ำเงินจากญี่ปุ่น มีปริมาณไขมันระดับปานกลาง เป็นส่วนที่อยู่ตรงกลางระหว่าง Otoro กับ Akami คำว่า ชู (中) แปลว่า “กลาง” ในภาษาญี่ปุ่น ส่วนนี้ไม่ติดมันเกินไป มีความมันปานกลางและชุ่มฉ่ำ

 

 

              หากคุณอยากลิ้มรสปลาญี่ปุ่นตามฤดูกาลที่หาทานยาก และวัตถุดิบพรีเมียมอื่น ๆ ส่งตรงจากประเทศญี่ปุ่น คงความสดและมีคุณค่า ด้วยฝีมือเชฟระดับชั้นนำ กับโอมากาเสะพรีเมียม ในบรรยากาศสไตล์เอโดะ แบบฉบับญี่ปุ่นดั้งเดิมแท้ ๆ ได้ที่ Sushi Koge ตั้งอยู่ชั้น B วานิชวิลเลจ อารีย์ (Vanit Village Aree) เปิดให้บริการทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (ปิดทุกวันจันทร์) มีรอบให้บริการดังนี้ เวลา 12.00/13.30/18.00/19.30 น. ใช้เวลาในการเสิร์ฟรอบละ 1.30 ชม. (จำกัด 12 ที่นั่งต่อรอบ) สำหรับ Standard Course (18 Course) ราคา 2,900++ บาท (ราคายังไม่รวม Vat7% และ Service Charge10%) รวมถึงค่าเครื่องดื่ม สามารถสำรองที่นั่งได้ที่ https://lin.ee/CdamYNj หรือ โทร. 099-003-9039